Sunday, July 22, 2012

ประโยชน์องุ่น องุ่นแดง



• ช่วยยับยั้งการเกาะตัวของคอเรสเตอรอลที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ
• ช่วยบรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบ
• มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและหัวใจ
• ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง

องุ่นเป็นผลไม้ที่มีรสชาติดี ทั้งรสหวาน เปรี้ยว มีขายทั่วไป ปลูกกันมากกว่า 5000 ปี สามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในเขตหนาว เขตกึ่งร้อนกึ่งหนาว และเขตร้อน


ปัจจุบันนี้มีการปลูกองุ่นกันแพร่หลายมากในบ้านเรา  ไร่องุ่นบางไร่จะนำผลผลิตไปทำไวน์  แต่บางไร่เน้นเรื่องการจำหน่ายผลองุ่น  องุ่นที่ปลูกในเมืองไทยมีมายกมายหลายพันธุ์  ทั้งลูกใหญ่  ลูกเล็ก  สีเขียว  สีแดง  สีม่วง  มีเมล็ด  ไร้เมล็ด  มีให้ผู้บริโภคเลือกตามใจชอบ  องุ่นกินได้ทั้งผลสดและแห้ง
คนส่วนใหญ่จะคายเมล็ดองุ่นทิ้ง  ความจริงเมล็ดองุ่นจะมีนำมันที่กินได้  และเชื่อว่าน้ำมันนี้ช่วยให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง  ลดความเสี่ยงต่อการจับตัวของก่อนเลือดประโยชน์ขององุ่นโดยเฉพาะองุ่นแดงหรือองุ่นม่วง  ส่วนใหญ่เกิดจากสีที่มีมากที่ผิวและเมล็ดขององุ่น  ซึ่งมีปริมาณมากกว่าในเนื้อองุ่นประมาณ 100 เท่า  สารแอนโธไซยานิน  เป็นสารกลุ่มโพลิฟินอลมีมากในองุ่นแดง  หรือม่วง  ส่วนสาร  แคทิชิน  มีมากในองุ่นเขียว  ปริมาณสารโพลิฟินที่มีอยู่ที่ผิวขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง  นอกจากนี้องุ่นยังอุดมไปด้วย กรดเอลลาจิก  ซึ่งเป็นสาร ฟลาโวนอยด์  ที่มีพลังในการต่อสู้กับมะเร็ง

องุ่นและน้ำองุ่นมีบทบาทต่อระบบหัวใจแตกต่างกัน  รงควัตถุในองุ่น  แดง  ม่วงและดำ  จะช่วยป้องกันระบบหัวใจโดยกลไกลหลายอย่าง  รวมทั้งการป้องกันมีให้เลือดจับกันเป็นก้อน  ยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของ  แอล ดีแอล คอเลสเตอรอล  ลดระดับโฮโมซิสเตอีน  และคุณสมบัติการต้านการเกิดหลอดเลือดแข็ง  องุ่นกระตุ้นการสร้างไนตริกออกไซด์ในเยื่อบุชั่นใน  ซึ้งเหนี่ยวนำทำให้เกิดการคลายตัวของผนังหลอดเลือดและทำให้ความดันโลหิตลดลง  และรายงานศึกษาเกี่ยวกับน้ำองุ่นพบว่า  สามารถลดแอล  ดี  แอลคอเลสเตอรอล  และลดระดับตัวชีวัดการอักเสบในพลาสม่า
กินองุ่นครั้งต่อไป  อย่าลืมกินทั้งเปลือกและเมล็ด  แต่ต้องล้างให้สะอาดก่อน



ประโยชน์ต่อสุขภาพ

    องุ่น เป็นอาหารบำรุงร่างกายอีกชนิดหนึ่ง นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหาร ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีหลายชนิด สารอาหารที่สำคัญ คือน้ำตาล และสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์อีกประมาณ 7-8 ชนิด น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโคส วิตามินซี นอกจากนี้ยังมีเหล็ก และแคล   เซี่ยมองุ่นยังสามารถนำไปทำเหล้าองุ่น ซึ่งเป็นเหล้าบำรุง ส่วนเครือและราก ใช้เป็นยาขับลม ขับปัสสาวะ รักษาโรคไขข้ออักเสบ ปวดเอ็นกระดูก และมีฤทธิ์ระงับประสาท แก้ปวด แก้อาเจียนอีกด้วย
    การรับประทานองุ่นเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้ง แรงน้อย แก่ก่อนวัย ไม่มีเรี่ยวแรง ถ้ารับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยเสริมทำให้ร่างกายค่อยๆแข็งแรงขึ้นได้

การยับยั้งเซลล์มะเร็งด้วยสารสกัดจาก...'องุ่นแดง'

โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนและทำให้เกิดโศกนาฎกรรมอย่างใหญ่หลวงแก่ประชาชนทุกชาติ ทุกภาษา  ในวงการแพทย์พบว่าโรคที่มีอัตราการตายสูงมาก คือ โรคมะเร็ง

                    โรคมะเร็ง  ก่อกำเนิดมาจากเซลล์มะเร็งที่เกาะตามอวัยวะต่างๆ  เปลี่ยนสภาพในร่างกาย แล้วเปลี่ยนไปเป็นเนื้อร้ายเจริญเติบโตและขยายตัวในหลอดเลือด และน้ำเหลือง จนในที่สุดกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายจนยากแก่การรักษา  โดยเฉพาะหากกระจายไปที่ส่วนสำคัญ เช่น ปอด ตับ และสมอง เป็นต้น ซึ่งอวัยวะดังกล่าวเป็นจุดอ่อนที่เซลล์มะเร็งสามารถเข้าไปทำลายได้ง่าย  แล้วก็จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด

การรักษาโรคหรือเนื้อร้ายนี้ในวงการแพทย์ได้พยายามวิวัฒนาการ  การรักษา  และเยียวยาเป็นเวลาช้านาน

ปัจจุบันมีหลายวิธี คือ การผ่าตัด เคมีบำบัดและรังสีรักษา ซึ่งวิธีการดัง กล่าวก็เป้นเพียงแต่ยับยั้งหรือจำกัดการแพร่กระจายได้ในส่วนหนึ่งเท่านั้น  โดยเฉพาะในทางเคมีบำบัด  และรังสีรักษา อาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปากอักเสบ ผมร่วง เป็นต้น   ซึ่งสร้างความเจ็บปวดหรือทุกขเวทนาแก่ผู้ป่วยจนอาจยุติการรักษาและนำไปสู่การสูญเสียชีวิตในที่สุด

"...พบว่าสารสกัดจากกากองุ่นแดงสามารถ ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง จะหยุดการกระจาย และตายไปในที่สุด  ที่ทางวิทยาศาสตร์เรียก  อะพอพโตซิส (apoptosis)..."



องุ่นแดง (ประกอบด้วย เมล็ด เนื้อ และเปลือก) มาใช้ในการศึกษาฤทธิ์ความเป็นพิษ   ในการยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งตับอ่อน   และมะเร็งท่อน้ำดี   ซึ่งเป็นมะเร็งตับที่มีอุบัติ-การณ์สูงสุด   ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย  พบว่าสารสกัดจากกากองุ่นแดงสามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งและหยุดการกระจาย จนตายไปในที่สุด  ที่ทางวิทยาศาสตร์เรียก อะพอพโตซิส (apoptosis)

  นอกจากนี้ยังมีสาร Ellagic acid  ที่สามารถจับและทำลายพิษของสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะ สาร resveratrol ที่พบมากในผิวจากเปลือกองุ่นแดง     ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ขณะเดียวกันก็  เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันแลัวยังเป็นสารป้องกันและต้านมะเร็งได้   นอกจากนี้ยังมีรายงานจากต่างประเทศว่า สามารถใช้รักษาโรคอัลไซ -เมอร์  พาร์กินสันและ เอดส์ได้อีกด้วย
 
ดังนั้น  หากเรานำเอาสารสกัดที่ได้จากการแปรรูปขององุ่น  มาใช้ให้เป็นประโยชน์โดย   เฉพาะนำมาสกัดเอาสาร polyphenol   เป็นสารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและเป็นสารต้านมะเร็ง  โดยสกัดมาทำยา   ซึ่งเราสามารถใช้เป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคร้ายนี้ได้ในอนาคต

0 comments:

Post a Comment