• เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
• มีฤทธิMต้านเชื้อไวรัส ป้องกันและบรรเทาการติดเชื'อโรคในระบบทางเดินหายใจ
• เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
เอลเดอร์เบอร์รี่ เป็นผลเบอร์รี่ขนาดเล็กสี่ม่วงเข้ม
มีลักษณะเป็นพวง มีถิ่นกำเนิดในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย
แต่เดิมถูกใช้เพื่อในการทำอาหารและไวน์
ผลไม้นี้ประกอบด้วย สารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่แตกต่างกัน 60 ชนิด
เนื่องจากการมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์สูง
ทำให้มีผลในการรักษาสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือดหัวใจได้อย่างดี
และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และมีสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยมีวิตามินซี กรดผลไม้และน้ำมันที่มีประโยชน์ และแอนโธไซยานิน นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า เฟวานอยด์และเคอร์เซติน เป็นสารอันทรงคุณค่าที่มีอยู่ในเอลเดอร์เบอร์รี่
ประวัติความเป็นมา
เอลเดอร์เบอร์รี่เป็นพืชในตระกูลคาพริโฟเลียซี (Caprifoliaceae) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sambucus nigra ซึ่งเป็นพืชที่มีความสูงประมาณ 35 ฟุต ดอกมีสีเหลือง-ขาว ส่วนผลมีสีม่วง-ดำ ปลูกมากทางยุโรปและอเมริกาเหนือ ส่วนของผลนำมาใช้ประโยชน์ในทางยาได้ ถูกนำมาใช้เป็นอาหารหลายอย่าง เช่น พาย ไวน์ และน้ำผลไม้ เป็นต้น อีกทั้งอัลเดอร์เบอร์รี่เคยถูกนำมาใช้ประโยชน์เป็นยาในการรักษาโรคต่างๆ เช่น ใช้เป็นยาขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ สมานแผล ยาระบาย และแก้อาเจียน เป็นต้น
สารสำคัญที่พบในอัลเดอร์เบอรร์รี่
Flavonoids โดยเฉพาะ แอนโธไซยานิน (Anthocyanins) มีฤทธิ์ต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่ดีเลิศ (Powerful antioxidant)
ประโยชน์ของอัลเดอร์เบอรร์รี่
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) จึงช่วยลดความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส (Antiviral) ช่วยป้องกันและบรรเทาการติดเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด (Common cold) โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) รวมทั้งการติดเชื้อโรคเริมที่ริมฝีปาก (Herpes simplex virus type 1)
กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยเพิ่มการสร้างสาร Cytokine ซึ่งมีผลกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว
อัลเดอร์เบอรร์รี่มีส่วนช่วย
ผู้ที่ติดเชื้อไวรัส เช่น เป็นไข้หวัด ไอ หลอดลมอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ และโรคเริม
ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ ไขมันในเส้นเลือด เบาหวาน มะเร็ง ฯลฯ
ยังไม่มีรายงานปฏิกิริยาระหว่างอัลเดอร์เบอร์รี่กับยาหรือพืชสมุนไพรอื่นๆ
ยังไม่มีรายงานความเป็นพิษจากการใช้อัลเดอร์เบอร์รี่เกินขนาด แต่อย่างไรก็ตามพบว่า การรับประทานผลอัลเดอร์เบอร์รี่ที่ไม่ผ่านความร้อน (uncook berries) อาจทำให้เกิดคลื่นไส้อาเจียนได้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงส่วนของลำต้นเนื่องจากมีสาร Cyanide ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย
0 comments:
Post a Comment