Saturday, July 21, 2012

ประโยชน์แครนเบอรี่



• แครนเบอร์รี่มีสารแทนนิน ที่ช่วยหยุดการเกาะตัวของแบคทีเรียอีโคไล ที่บริเวณผนังทางเดินปัสสาวะ
• เสริมสร้างภูมิต้านทานและช่วยให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า
• ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น
• มีสารโปรแอนไธไซยานิดีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มสีม่วงที่ดีกับสุขภาพเส้นเลือดอีกด้วย และป้องกันโรคเหงือกและแผลในช่องท้อง

          หลายคนเห็นเจ้าผลไม้สีแดงลูกเล็ก ๆ นี้แล้วไม่รู้จักว่า มันคือ "แครนเบอร์รี่" ที่มีสรรพคุณทางยาหลายประการที่ดีต่อสุขภาพเอามาก ๆ จึงไม่แปลกที่ช่วงนี้ เราจะได้ยินชื่อของ "แครนเบอร์รี่" ถูกผสมลงไปในอาหารเพื่อสุขภาพหลาย ๆ ชนิด ที่โฆษณาให้เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ นั่นเอง

          ว่าแต่...แครนเบอร์รี่มีประโยชน์อย่างไรต่อสุขภาพ ถ้าอยากรู้แล้วล่ะก็ ตามมารู้จักเจ้าผลไม้สีแดงลูกเล็ก ๆ น่าชิมลูกนี้กันดีกว่าจ้า

          แครนเบอร์รี่ (Cranberries) เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีผลเล็ก ๆ สีแดงสด รสชาติหวานอมเปรี้ยว มักจะปลูกในแถบประเทศอเมริกา และแคนาดา แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ทานเจ้าผลไม้นี้แบบสด ๆ กันสักเท่าไหร่ มักจะได้ทานแครนเบอร์รี่ในรูปแบบที่ผสมมากับอาหารชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผลไม้ ซอส แยม โยเกิร์ต รวมทั้งแครนเบอร์รี่อบแห้ง



สรรพคุณแครนเบอร์รี่


          ส่วนใครที่เห็น ว่า แครนเบอร์รี่ ลูกเล็ก ๆ นี้ ไม่น่าจะมีฤทธิ์อะไรต่อสุขภาพมากนัก ขอบอกว่า คิดผิดถนัดค่ะ เพราะเจ้าลูกเล็ก ๆ นี้แหละที่มีสารอาหารมากมาย โดย แครนเบอร์รี่สด ๆ 100 กรัม จะให้สารอาหารดังนี้

          พลังงาน 46 กิโลแคลอรี
          ไฟเบอร์ 4.6 กรัม
          น้ำตาล 4.04 กรัม
          แคลเซียม 8 มิลลิกรัม
          แมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม
          แมงกานีส 0.15 มิลลิกรัม
          ฟอสฟอรัส 13 มิลลิกรัม
          โพแทสเซียม 85 มิลลิกรัม
          โซเดียม 2 มิลลิกรัม
          วิตามินซี 13.3 มิลลิกรัม
          วิตามินเอ 60 IU
          วิตามินเค 5.1 ไมโครกรัม
          แคโรทีน 36 ไมโครกรัม
          ลูทีน และซีแซนทีน 91 ไมโครกรัม


แครนเบอร์รี่

สรรพคุณแครนเบอร์รี่

แครนเบอร์รี่อบแห้ง


          สารอาหารมากมายขนาดนี้แล้ว ประโยชน์ของเครนเบอร์รี่ล่ะ มีอะไรบ้าง

แก้โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

          แครนเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย จึงมีสรรพคุณต่อกรกับโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากในแครนเบอร์รี่มีสารหลายชนิด โดยเฉพาะสารแทนนิน ที่ช่วยหยุดการเกาะตัวของแบคทีเรียอี โคไล ที่บริเวณผนังทางเดินปัสสาวะ คนที่เป็นโรคนี้ให้ดื่มน้ำแครนเบอร์รี่เข้มข้น ไม่มีน้ำตาลแก้วละ 250 มิลลิลิตรทุกวัน วันละ 3 แก้ว ถ้าจิบวันละ 1 แก้วจะช่วยป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นโรคนี้ได้อีก หรือรับประทานอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากแครนเบอร์รี่วันละ 800 มิลลิกรัมก็จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยขจัดกลิ่นในปัสสาวะได้ด้วย

ช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากอากาศหนาว

          แครนเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง จึงช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บที่มากับอากาศหนาวได้ และยังเหมาะที่จะนำไปทำเครื่องดื่มประเภทสมูธตี้ผลไม้ นำส้มคั้นลูกขนาดกลางหนึ่งลูก เกรปฟรุตครึ่งลูกคั้นเอาแต่น้ำใส่ในเครื่องปั่น เติมแครนเบอร์รี่ 2 กำมือและกล้วย 1 ผลลงไป ปั่นให้เข้ากัน ดื่มเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทาน และช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าเหมือนอยู่ในฤดูร้อนที่แสนสดใส

ผิวพรรณและริมฝีปากเนียนนุ่มชุ่มชื่น

          แครนเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซี และแอนตี้ออกซิเดนท์จำนวนมากที่ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น จึงเหมาะที่จะนำไปทำเป็นลิปมัน เพื่อป้องกันริมฝีปากแห้งแตกในช่วงหน้าหนาว โดยนำแครนเบอร์รี่ 10 ผลผสมกับน้ำมันสวีทอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา น้ำมันวิตามินอี 1 หยด ไปต้มจนเดือด นำส่วนผสมที่ได้ไปบดให้ละเอียดผ่านกระชอน เสร็จแล้วทิ้งไว้ให้เย็น นำมาทาเวลาปากแห้ง

          นอก จากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่า ในแครนเบอร์รี่มีสารโปรแอนโธไซยานิดีน (Proanthocyanidine) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสีกลุ่มสีม่วงที่ดีกับสุขภาพเส้นเลือดอีกด้วย แถมยังช่วยป้องกันโรคเหงือก และแผลในช่องท้องได้อีกต่างหาก

          เห็นประโยชน์ดี ๆ ของผลไม้จิ๋วลูกนี้แล้ว คงต้องรีบไปหาแครนเบอร์รี่มาลิ้มชิมรสกันแล้วล่ะ ^^


ที่มา : http://health.kapook.com/view6151.html

0 comments:

Post a Comment